ความเข้าใจเชิงแนวคิดคือการเชื่อมโยงปัจจัยต่าง ๆ ของความรู้ทางคณิตศาสตร์ให้เป็นหัวข้อเฉพาะที่ครอบคลุมในแบบองค์รวม กล่าวโดยสรุปคือ นี่คือคำว่าทำไมที่อยู่เบื้องหลังคำตอบนั่นเอง

เราสร้างรากฐานการมุ่งเน้นของเราในการสร้างความเข้าใจเชิงแนวคิดด้วยหลักการห้าประการ

การก้าวจากรูปธรรมไปสู่นามธรรม

คณิตศาสตร์คือโลกของนามธรรม เพื่อการพัฒนาความเข้าใจเชิงแนวคิดที่เป็นจริงอย่างแท้จริงโดยไม่ใช่เพียงการปฏิบัติตามขั้นตอนวิธีเท่านั้น เราจึงจะเป็นต้องก้าวผ่านนามธรรมในทุกระดับเสียก่อน ตั้งแต่เป็นรูปธรรมอย่างที่สุด ไปจนถึงนามธรรมอย่างที่สุด กิจกรรมต่าง ๆ ของ Matific ถูกพัฒนาขึ้นจากวิธีการดังกล่าว ซึ่งเด๋ก ๆ จะเดินทางบนเส้นทางของการแสดงคณิตศาสตร์ที่เป็นจริงและเป็นรูปธรรมมาก ๆ ผ่านขั้นตอนต่าง ๆ ผ่านสัญลักษณ์ต่าง ๆ ไปจนถึงปลายทางที่เด็ก ๆ สามารถแก้ไขปัญหาที่เป็นนามธรรมมาก ๆ ได้ ความก้าวหน้านี้ทำให้แน่ใจว่าเด็ก ๆ จะไม่ได้เพียงแต่จดจำขั้นตอนต่าง ๆ แต่เข้าใจอย่างแท้จริงว่ากระบวนการนั้น ๆ มีความหมายว่าอย่างไร

ความต้องการสำหรับอุปลักษณ์หลาย ๆ อย่าง

เมื่อสอนแนวคิดทางคณิตศาสตร์ ในการพัฒนาความเข้าใจที่แท้จริง เราจะต้องใช้อุปลักษณ์หลาย ๆ อย่าง และด้วยการใช้อุปลักษณ์ที่หลากหลายนี้ เราจะช่วยให้เด็ก ๆ สร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ขึ้น และนึกถึงแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ที่เหมาะสมสำหรับปัญหาต่าง ๆ ที่ตนไม่คุ้นเคยได้

การเรียนรู้แบบบันไดเวียนและการบ่มเพาะเพื่ออนาคต

เรามุ่งเน้นที่การบ่มเพาะเพื่ออนาคตอย่างมาก เพื่อการวางรากฐานก่อนที่จะสอนอย่างเป็นทางการ หากเป็นไปได้ เราจะพยายามสาธิตแนวคิดในรูปแบบต่าง ๆ ที่เป็นธรรมชาติเพิ่ม เพื่อช่วยให้เด็ก ๆ เข้าใจถึงแก่นสารของสิ่งนั้น ๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้เด็ก ๆ ช่วยในทักษะการแก้ไขปัญหา และช่วยให้หายกังวลในวิชาคณิตศาสตร์

สร้างความเชื่อมโยงกับทุกหัวข้อ

ตำราคณิตศาสตร์และหลักสูตรแบ่งเอกสารการเรียนรู้ออกเป็นชุดของทักษะต่าง ๆ การจัดหมวดหมู่หัวข้อเหล่านี้ช่วยให้เราสร้างความก้าวหน้าทางการเรียนรู้ได้ แต่เราต้องเตือนตนเองด้วยว่า สิ่งต่าง ๆ นั้นเชื่อมโยงกัน และหัวข้อต่าง ๆ ไม่ได้แยกออกจากกันอย่างเป็นเอกเทศ ที่ Matific เราโอบอุ้มความเชื่อมโยงซึ่งกันและกันระหว่างหัวข้อต่าง ๆ เอาไว้ เนื่องจากการพัฒนาความเข้าใจที่ลึกซึ้ง สิ่งที่สำคัญก็คือต้องเข้าใจไม่เพียงแต่อะไร แต่ต้องเข้าใจถึงทำไม เมื่อใด และอย่างไรด้วย

ข้อเสนอแนะที่มีประสิทธิภาพและมีประโยชน์

Matific ใช้ขั้นตอน 3 ขั้นตอน ลำดับของคำตอบที่ผิดจะเข้าแทรกแซงทันที ซึ่งจะส่งเสริมให้เด็ก ๆ ตรวจทานข้อผิดพลาดของตนแล้วลองอีกครั้ง เราให้คำแนะนำที่ชัดเจน และถ้าจำเป็น เรายังมอบขั้นตอนที่แนะนำในการแก้ไขปัญหาอีกด้วย ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เด็ก ๆ ตอบคำถามต่อไปได้อย่างถูกต้อง

Matific หล่อเลี้ยงการคิดเชิงวิพากษ์โดยการสนับสนุนให้เด็ก ๆ ท้าทายคำจำกัดความและสรุป เราผลักดันให้เด็ก ๆ ถามคำถาม เช่น "เราจะนำสิ่งนี้ไปใช้เมื่อไหร่" "ทำไมจึงจำเป็นต้องทำโจทย์แบบนี้" เราสนับสนุนให้เด็ก ๆ ต้องการเหตุผลที่ทำให้ตนเชื่อ ไม่ใช่แค่ยอมรับกฎต่าง ๆ ตามที่เห็น

เราสร้างทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ที่เป็นไปตามหลักสี่ประการ

การพัฒนาทักษะการแก้ไขปัญหา

การแก้ไขปัญหาคือหัวใจของคณิตศาสตร์ สิ่งนี้อยู่ในหลักสูตรทั่วดลก แต่การสอนการแก้ไขปัญหาเป็นสิ่งที่ยาก เพราะมีเส้นบาง ๆ ระหว่างความท้าทายและความวุ่นวาย กิจกรรมของ Matific ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้เด็ก ๆ พบกับปัญหาใหม่ ๆ และหาวิธีการใหม่ ๆ ในการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะเมื่อไม่มีขั้นตอนวิธีที่ชัดเจน

การตรวจสอบความน่าเชื่อถือ

ความสามารถในการสังเกต และเข้าใจตนเองคือรากฐานของการพัฒนาความเป็นอิสระทางการศึกษาของเด็ก Matific มอบสิ่งแวดล้อมที่เด็ก ๆ สามารถทำความเข้าใจความผิดของตนได้ เราติดตามความผิดพลาดของเด็ก ๆ เพื่อนำไปสู่สรุปที่เป็นตรรกะ เพื่อให้เด็ก ๆ มองเห็นว่าตนผิดที่ไหน และผิดอย่างไร

การหาชุมชนทางคณิตศาสตร์

ชุมชนทางคณิตศาสตร์อาจฟังดูเป็นนามธรรมมาก ๆ สำหรับชีวิตประจำวันของเด็ก ๆ แต่เราต้องการให้เด็ก ๆ มองเห็นความงามในคณิตศาสตร์ ที่ Matific เราได้สร้างสภาพแวดล้อมที่เด็ก ๆ รู้สึกผ่อนคลายในการถามคำถาม ทำสิ่งต่าง ๆ และที่สำคัญที่สุดก็คือ เป็นผู้มีส่วนร่วมกับคณิตศาสตร์

หลากกลยุทธ์ หลายวิธีแก้ปัญหา

ในชีวิตจริง ปัญหาต่าง ๆ จะมีวิธีการแก้ไขหลายแบบ และคณิตศาสตร์ก็เป็นเช่นนั้น ที่จริงแล้ว กลยุทธ์ต่าง ๆ เป็นเอกลักษณ์ของปัญหาที่ซับซ้อน เมื่อเราอนุญาตการใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ และวิธีการแก้ไขปัญหา จึงเป็นการสนับสนุนให้เกิดความคิดสร้างสรรค์และความสนุกสนานในคณิตศาสตร์ Matific นำเสนอคำถามต่าง ๆ ที่มีวิธีตอบคำถามหลายแบบ ซึ่งทำให้เด็ก ๆ เปิดเผยข้อมูลเชิงลึก ไปให้ถึงสรุปในแบบของตนเอง และทำให้เข้าใจคำถามได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น

เมื่อนำคณิตศาสตร์ไปไว้ในบริบทจริงที่ทำให้เด็ก ๆ รู้สึกสมจริง เราจะทำให้เด็ก ๆ มองเห็นความสำคัญของแนวคิดทางคณิตศาสตร์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันของตน ความสมจริงนี้ช่วยให้แน่ใจว่า ยิ่งเราแนะนำสิ่งที่เป็นนามธรรมมากขึ้นเพียงใด เด็ก ๆ ก็จะรู้สึกมั่นใจขึ้น เพราะทราบว่าสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้อยู่ในชีวิตประจำวันของตนได้อย่างไร

ความเกี่ยวข้องกับเด็ก ๆ

แน่ใจได้ว่าความเกี่ยวข้องเป็นรากฐานที่จะทำให้แน่ใจถึงการมีส่วนร่วมและแรงกระตุ้นในคณิตศาสตร์ บ่อยครั้งมากที่คณิตศาสตร์มาในรูปแบบนามธรรม ซึ่งแปลกแยกจากชีวิตประจำวันของเด็ก ๆ ที่ Matific เรามอบโลกที่เด็ก ๆ สนใจด้วยตัวของมันเอง เนื้อหาอาจเกี่ยวข้องกับภาพยนตร์ที่เด็ก ๆ ดู เกมที่เด็ก ๆ เล่น หรือโลกรอบ ๆ ตัว คณิตศาสตร์ของเราเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเด็ก ๆ และเรายังสร้างโลกและปัญหาต่าง ๆ ที่เด็ก ๆ สามารถใช้จินตนาการและความสนุกสนานของตนได้ ซึ่งเด็ก ๆ จะสามารถจินตนาการถึงโลกที่เราพยายามสร้างขึ้นได้

โลกที่เป็นจริง

จุดสนใจหลักของกิจกรรมของ Matific คือ เพื่อมอบความเป็นธรรมชาติให้แก่แนวคิดทางคณิตศาสตร์ วิธีที่ดีที่สุดในการทำสิ่งนี้ก็คือ พึ่งพาธรรมชาติที่เด็ก ๆ มีอยู่แล้ว เราทำสิ่งนี้โดยพึ่งพาประสบการณ์ในธรรมชาติในชีวิตจริงของเด็ก ๆ เราออกแบบปัญหาของเราอย่างรอบคอบ และคัดสรรมาเพื่อให้เด็ก ๆ เรียนรู้ พัฒนา และก่อร่างความคิดใหม่ ๆ ในสถานการณ์ที่สมจริงต่าง ๆ เราหลีกเลี่ยงสถานการณ์ประดิษฐ์ต่าง ๆ ที่ตัวอย่างไม่แสดงชีวิตจริง เช่น เมื่อเราพูดถึงเลข 6 เราจะแสดงไข่หกฟองในกล่องเพื่อเทียบกับเห็ด 6 ดอกในป่า

ข้อเสนอแนะแบบตรงไปตรงมา

ข้อเสนอแนะแบบเดิม ๆ ในการศึกษาคือพลังจากภายนอกที่บอกเด็ก ๆ ว่า "เธอทำผิด" แต่การให้บริบทที่มีความหมายก็ยังหมายถึงการให้ข้อเสนอแนะที่ตรงไปตรงมาและมีบริบทด้วย ที่ Matific เราให้ข้อเสนอแนะที่ตรงไปตรงมา ซึ่งมาจากสภาพแวดล้อมของปัญหา ข้อเสนอแนะจะมาจากสิ่งที่เด็ก ๆ ทำโดยตรง ซึ่งไม่ใช่คำตัดสินจากภายนอก

เด็กแต่ละคนเรียนรู้ในรูปแบบที่ไม่เหมือนกัน ตั้งแต่ความเร็วในการเรียนรู้ที่แตกต่าง ไปจนถึงรูปแบบการเรียนรู้ที่ต่างกัน โดยการถามคำถามที่ถูกต้องในเวล่ที่เหมาะสม เราจะสามารถช่วยให้เด็ก ๆ เดินไปบนเส้นทางการเรียนรู้ของตนได้ และด้วยการมอบสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่เด็ก ๆ สามารถเป็นเจ้าของการเรียนรู้ของตน นอกจากเราจะสามารถหล่อเลี้ยงความเป็นอิสระแล้ว แต่ยังแน่ใจได้ด้วยว่า ไม่ว่าเด็ก ๆ จะต้องการสิ่งใดในการเรียนรู้ เด็ก ๆ ก็จะสามารถเข้าถึงคำถามแต่ละข้อในวิธีการที่เหมาะสมกับความสามารถของตนได้เสมอ

การเดินทางที่เป็นส่วนตัว

กิจกรรมต่าง ๆ ของ Matific ถูกออกแบบอย่างรอบคอบ เพื่อให้แน่ใจว่าเด็ก ๆ สามารถทำได้ตามระดับของตน ในรูปแบบของตนเอง ซึ่งหมายความว่า ถึงแม้ว่าเราจะให้เด็ก ๆ ฝึกฝนความสามารถของตน แต่เราก็จะไม่บังคับด้วยเวลา เราให้เด็ก ๆ ย้อนกลับมาที่กิจกรรมได้ตามต้องการเพื่อปรับปรุงคะแนนของตน เราเชื่อว่า เด็ก ๆ ต้องการเวลาและสถานที่ที่จะซึมซับหัวข้อต่าง ๆ และเอาชนะความท้าทายที่พบ

การเติบโตในห้องเรียนที่มีความหลากหลาย

การเติบโตในห้องเรียนที่มีความสามารถหลายระดับเป็นสิ่งที่ยากที่สุด ทั้งสำหรับนักเรียนและครู Matific มีเครื่องมือที่หลากหลาย ไม่ใช่เพียงเพื่อจัดการ แต่ยังเจริญเติบโตในสภาพแวดล้อมของห้องเรียนประเภทนี้ด้วย

ข้อเสนอแนะและคำใบ้แบบส่วนตัว

ข้อเสนอแนะคือรากฐานของกระบวนการเรียนรู้ แต่ข้อมูลในข้อเสนอแนะที่น้อยเกินไปหรือมากเกินไปจะไม่ช่วยให้เด็ก ๆ เข้าใจความผิดพลาดของตน และไม่ช่วยให้เด็ก ๆ เข้าใจความผิดพลาดหรือปัญหาเลย ที่ Matific เราใช้คำตอบของเด็ก ๆ เพื่อให้ข้อเสนอแนะที่มีประสิทธิภาพและเป็นส่วนตัวจากคำตอบจริงของเด็ก ๆ เพื่อให้แน่ใจถึงการแทรกแซงที่ทันท่วงที

การทำให้แน่ใจว่าเด็ก ๆ มีส่วนร่วมกับคณิตศาสตร์อย่างแท้จริงคือรากฐานในการสร้างพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ตลอดชีวิต ที่ Matific เราท้าทายตนเองโดยการสร้างเนื้อหาที่สนุกสนาน คุณอาจจะพูดว่า Matific คือสถานที่ที่เด็ก ๆ ต้องการมา ตัวละครต่าง ๆ ที่น่าหลงใหล สถานการณ์ที่มีเสน่ห์ และปัญหาที่สามารถเข้าถึงได้ ที่ทำให้คุณต้องการอยู่ต่อเพื่อไปให้ถึงตอนจบของเรื่องราว ในเวลาเดียวกัน เราก็จะระมัดระวังเพื่อให้แน่ใจว่า ประสบการณ์ของผู้ใช้ที่มีส่วนร่วมจะไม่บดบังการศึกษาไป

ลดความกังวล

เมื่อมีคำตอบเพียงคำตอบเดียว ก็จะเห็นได้อย่างเด่นชัดเมื่อตอบผิด เมื่อสิ่งนี้ประกอบกับวัฒนธรรมที่ความล้มเหลวถูกเชื่อมโยงกับความไม่ฉลาด จึงทำให้เด็ก ๆ มีความกังวลกับคณิตศาสตร์ และทำให้เด็ก ๆ ละทิ้งคณิตศาสตร์ในระดับที่สูงขึ้น
ความรู้สึกว่ามีความสามารถและมั่นใจเป็นสิ่งสำคัญในการเรียนรู้ ที่ Matific เราใช้สภาพแวดล้อมแบบเกมเพื่อมอบสภาพแวดล้อมเพื่อการสำรวจ และลดความกังวล

เร่งเร้าความสนใจใคร่รู้ และทำให้ความพยายามผลิดอกออกผล

การหล่อเลี้ยงสภาพแวดล้อมที่เด็ก ๆ มีอิสระในการใช้ความสงสัยใคร่รู้ของตน และเสริมสร้างความมานะพยายามของตน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการหล่อเลี้ยงสภาพแวดล้อมในการศึกษา เราทำสิ่งนี้โดยมอบระดับในการควบคุมความก้าวหน้าของตนให้แก่เด็ก ๆ อย่างมาก ทำให้เด็ก ๆ มีอิสระในการสำรวจ เพื่อตัดสินใจว่าจะทำอะไร และจะทำอย่างไร เรายังทำให้กิจกรรมของเราท้าทาย แต่น่าสนใจ เราให้โอกาสตอบคำถามหลายครั้ง และสนับสนุนให้เด็ก ๆ อยากเล่นไปจนถึงตอนจบ

ให้อิสระที่จะล้มเหลว

การเรียนรู้ที่แท้จริงคือการรับรู้จากความพยายาม เมื่อเราเผชิญความท้าทาย คุณจะล้มเหลวหลายครั้ง แต่ก็จะเอาชนะมันได้
ที่ Matific เราใช้อุปลักษณ์ของสภาพแวดล้อมแบบเกม เพื่อให้แน่ใจว่าเด็ก ๆ จะไม่กลัวที่จะล้มเหลว เหมือนในเกมที่เด็ก ๆ เล่น ความล้มเหลวคือส่วนหนึ่งของกระบวนการในการเอาชนะและข้ามผ่านปัญหา โดยการใช้ Matific เด็ก ๆ จะไม่เห็นว่าความผิดพลาดเป็นสิ่งที่น่ากลัวอีกต่อไป แต่จะเห็นว่าเป็นหนึ่งในกระบวนการเรียนรู้ตามธรรมชาติเท่านั้น

ใช้ประโยชน์เทคโนโลยีเพื่อบรรลุการมีส่วนร่วมอย่างเป็นธรรมชาติ

เทคโนโลยีมอบโอกาสมากมายในการพัฒนาประสบการณ์ทางการเรียนรู้ แต่ผู้ให้บริการเชิงการค้าส่วนใหญ่จะไม่ให้อะไรมากกว่าแบบฝึกหัดแบบดิจิทัล แต่ที่ Matific เราใช้เทคโนโลยีไปให้สุดขั้นเพื่อมอบสิ่งช่วยเหลือในการสอน ห้องทดลองเสมือน และสิ่งแวดล้อมแบบโต้ตอบนับพัน ๆ รายการ

การเรียนรู้โดยการลงมือทำ

ขงจื้อกล่าวไว้ว่า "ข้าลืมสิ่งที่ได้ยิน ข้าจำสิ่งที่ข้าเห็น และข้าเข้าใจสิ่งที่ข้าทำ" สิ่งนี้เป็นจริงมากในยุคปัจจุบัน การศึกษาวิตัยแสดงให้เห็นว่าการเรียนรู้แบบแอคทีฟที่ได้ลงมือทำมีประสิทธิภาพมากกว่าการเรียนแบบพาสซีฟมาก
ที่ Matific เรามอบคำถามที่มีคอมโพเนนต์แบบโต้ตอบ ที่ช่วยให้นักเรียนรับความรู้ด้วยตนเอง ทำให้เกิดช่วงเวลาที่ร้อง "อ๋อ" ขึ้น